เมนู

9. ธาตุสูตร



ว่าด้วยสัทธานุสารี และธัมมานุสารีบุคคล



[477] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปฐวีธาตุไม่เที่ยง
มีอันแปรปรวนเป็นอย่างอื่นเป็นธรรมดา อาโปธาตุ ฯลฯ เตโชธาตุ ฯลฯ
วาโยธาตุ ฯลฯ อากาสธาตุ ฯลฯ วิญญาณธาตุ
ไม่เที่ยง มีอันแปรปรวน
เป็นอย่างอื่นเป็นธรรมดา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดเชื่อมั่น ไม่หวั่นไหว
ซึ่งธรรมเหล่านี้อย่างนี้ เรากล่าวผู้นี้ว่า สัทธานุสารี ฯลฯ เป็นผู้เที่ยงที่
จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า.
จบ ธาตุสูตร

10. ขันธสูตร



ว่าด้วยสัทธานุสารี และธัมมานุสารีบุคคล



[478] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูปไม่เที่ยง
มีอันแปรปรวนเป็นอย่างอื่นเป็นธรรมดา เวทนา ฯลฯ สัญญา ฯลฯ
สังขาร ฯลฯ วิญญาณไม่เที่ยง มีอันแปรปรวนเป็นอย่างอื่นเป็นธรรมดา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดเชื่อมั่นไม่หวั่นไหว ซึ่งธรรมเหล่านี้อย่างนี้
เรากล่าวผู้นี้ว่า สัทธานุสารี ก้าวลงสู่สัมมัตตนิยาม ก้าวลงสู่สัปปุริสภูมิ
ล่วงภูมิปุถุชน ไม่ควรเพื่อทำกรรมที่บุคคลทำแล้วพึงเข้าถึงนรก
กำเนิดสัตว์เดียรัจฉาน หรือปิตติวิสัย ไม่ควรเพื่อทำกาละ ตราบเท่าที่
ยังไม่ทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล ดูก่อนภิกษุทั้งหลายธรรมเหล่านี้
ย่อมควรเพ่งด้วยปัญญา โดยประมาณอย่างนี้แก่ผู้ใด เรากล่าวผู้นี้ว่า
ธัมมานุสารีก้าวลงสู่สัมมัตตนิยาม ก้าวลงสู่สัปปุริสภูมิ ล่วงภูมิปุถุชน
ไม่ควรเพื่อทำกรรมที่บุคคลทำแล้วพึงเข้าถึงนรก กำเนิดสัตว์เดียรัจฉาน

หรือปิตติวิสัย ไม่ควรเพื่อทำกาละ ตราบเท่าที่ยังไม่ทำให้แจ้งซึ่ง
โสดาปัตติผล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดรู้เห็นธรรมเหล่านี้อย่างนี้
เรากล่าวผู้นี้ว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา
เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า.
จบ ขันธสูตร
จบ โอกกันตสังยุต


อรรถกถาโอกกันตสังยุต



อรรถกถาจักขุสุตตาทิสูตรที่ 1-10



พึงทราบวินิจฉัยในโอกกันตสังยุตดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อธิมุจฺจติ ได้แก่ ย่อมได้ สัทธาธิโมกข์1
บทว่า โอกฺกนฺโต สมฺมตฺตนิยามํ ได้แก่ เข้าไปสู่อริยมรรค.
ด้วยบทว่า อภพฺโพว ตาว กาลํ กาตุํ นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงแสดงถึงความไม่เป็นอันตราย (เครื่องกีดขวาง) ต่อผล ในเมื่อ
มรรคเกิดขึ้นแล้ว. เพราะว่าเมื่อมรรคเกิดขึ้นแล้ว ขึ้นชื่อว่า
การทำอันตราย (เครื่องกีดขวาง) แก่ผล จะไม่มี ด้วยเหตุนั้นแล
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ก็บุคคลนี้ พึงเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้
แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล และเวลาที่กัปจะถูกไฟไหม้ ก็คงมี (แต่ว่า)
กัปนี้จะไม่พึงถูกไฟไหม้ ตราบเท่าที่บุคคลนี้ยังไม่ทำให้แจ้งซึ่ง
โสดาปัตติผล บุคคลนี้ จึงถูกเรียกว่า ผู้ดำรงอยู่ชั่วกัป.
1 อรรถกถาว่า สทฺธาวิโมกข ฉบับพม่าเป็น สทฺธาธิโมกขํ แปลตามต้นฉบับพม่า